วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

manual investor chart



manual investor chart 


     การใช้งาน investor chart 
  • การเปลี่ยนชื่อหุ้น
  • การเปลี่ยน Time Frame
  • การตั้งค่าในต่างใน Menu Setting




การเปลี่ยนชื่อหุ้น
  • ให้ทำการคลิ๊ก 1 ที่ ตรงบริเวณชื่อหุ้น เพื่อที่จะทำการเปลี่ยนหุ้นตัวอื่น

  • พอทำการคลิ๊ก 1 ครั้ง จะขึ้นหน้าต่าง Symbol Search สามารถพิมพ์ชื่อหุ้นต้องการดูได้เลย


การเปลี่ยน Time Frame
  • การเปลี่ยน Time Frame สามารถเปลี่ยนโดยคลิ๊กปุ่ม Day ข้างๆฟันเฟือง



  • จะขึ้นหน้าต่าง Time Frame ให้เลือก ซึ่งมีให้เลือกตามดังนี้
  • Intraday
    • 1Min ,5Min ,15Min ,30Min ,60Min ,120Min ,240Min
  • Day
  • Week
  • Month




การตั้งค่าในต่างใน Menu Setting


  • ใน Menu Setting นั้น ใช้ในการตั้งค่ารูปแบบกราฟ และรวมไปถึงการใส่ indicator ในกราฟ

    Show Bar,Chart Type




  • Show Bar เป็นการเพิ่มจำนวน Bar ข้อมูลที่แสดงบน Chart ได้ที่นี้ 
    • ปรับได้ศุงสุด 400 Bar และต่ำสุด 25 Bar 
    • สามารถพิมพ์เลขเข้าไปได้เลยหรือท่านจะเลือกใช้ปุ่มเลื่อนเอาก็ได้



  • Chart Type เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Chart ซึ่งมีให้เลือกได้ตามนี้
    • Bar เป็นกราฟ OHLC (เป็นที่นิยมทางโซน ยุโรป และอเมริกา)
    • Line เป็นกราฟปลายปิด (ให้ความสำคัญกับราคาปิด)
    • Candle Stick เป็นกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น (เป็นที่นิยมกันมาก)
   
    Overlay



  • Overlay เป็นการใส่ indicator ใส่ในกราฟ ซึ่งสามารถใส่ได้ถึง 3 indicator

          ยกตัวอย่างในการตั้งค่า
          
          ผมจะใส่ค่า EMA เส้น 15 วัน และ 30 วัน หลักการใส่ ให้ใช้สัญญาลักษณ์ [ ; ]
          ให้ทำการใส่คั้นระหว่าง 15 กับ 30 เช่น 15;30 และถ้าต้องการใส่เส้นค่าอื่นเพิ่มเติมก็ให้ใส่    
          [ ; ] และใส่ค่าที่ต้องการเพิ่มเข้าไปได้เลย


   Trading Signal 



  • Trading Signal เป็นการให้แสดงจุดซื้อ จุดขาย บนกราฟ โดยใช้ Indicators ในการคำนวนโดยแสดงสัญญาณ เป็นลูกศร ลูกศรสีเขียว บอกสัญญาณซื้อ ส่วน ลูกศรสีแดง บอกสัญญาณขาย จึงทำให้ดูสัญญาณซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น


              


        Indicator


        ในส่วนของ Indicator นั้นสามารถใส่ได้สูงสุด 3 Indicators และสามารถปรับค่าของ Indicators ได้ตามความต้องการ 
  

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com


วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

6 เคล็ดลับควรทำในวันหยุดเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต

6 เคล็ดลับควรทำในวันหยุดเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต



เย้ๆๆ ในที่สุดวันสุดสัปดาห์ก็มาถึง คุณยิ่งควรเพิ่มความดีใจขึ้นอีกมากหากเป็นช่วงวันหยุดยาวที่คุณรอคอยหลังจากการเรียนหรือทำงานหนักอันยาวนาน การวางแผนใชัวันหยุดที่ดีจะช่วยให้คุณลดความตึงเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยเติมพลังให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในวันข้างหน้าและช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคุณในระยะยาวได้เลย

6 เคล็ดลับควรทำในวันหยุดเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต

1. ไม่ควรนอนมากเกินไป

การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นเรื่องจำเป็น แต่ทางการแพทย์พบว่าการนอนมากเกินไปจะทำให้องค์ประกอบทางชีวภาพของร่างกายคุณทำงานผิดจังหวะ ทำให้คุณรู้สึกหมดแรงและเฉื่อยชา คุณควรฝึกนิสัยการการตื่นแต่เช้าเป็นเวลาให้เหมือนกันในทุกๆวันแล้วงีบหลับ 10-45 นาทีในช่วงกลางวันของวันหยุดแทนจะช่วยขจัดอารมณ์ด้านลบ เพิ่มความสดชื่นและเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้

2. ให้เวลากับตัวเอง

ช่วงเวลาที่ผ่านมาคุณฟังและคิดถึงคนอื่นมามากเกินพอแล้ว หาเวลาหยุดคิดถึงคนอื่นแล้วให้เวลากับตัวเองคิดทบทวนถึงความสำเร็จของคุณที่ผ่านมาในอดีต จดลงใน “สมุดบันทึกความสำเร็จ” และจุดแข็งที่คุณมีเพิ่มขึ้นลงใน “สมุดบันทึกจุดแข็ง” ทบทวนเป้าหมายชีวิตเพื่อตรวจสอบว่าคุณมาได้ใกลแล้วเพียงใด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความภูมิใจและความพึงพอใจให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น เป็นเทคนิคที่ผมใช้อยู่เสมอแล้วพบว่ามันช่วยเพิ่มพลังและความสุขในชีวิตอย่างมาก

3. ใช้เวลากับคนที่คุณรัก

คนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตอยู่คนเดียว เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกธรรมชาติออกแบบมาให้อยู่กับสังคมโดยเฉพาะกับคนที่คุณรักและคนที่รักคุณ ในช่วงเวลางานคุณอาจโฟกัสกับงานมากจนละเลยพวกเขา ช่วงวันหยุดคือโอกาสทองที่คุณควรโทรหาหรือแม้กระทั่งไปเยี่ยมเยียนพวกเขาด้วยตัวเอง ฟัง พูด สร้างช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน เป็นกิจกรรมที่ช่วยพวกเขารวมถึงตัวคุณเองให้มีความสุขและรู้สึกเติมเต็มกับชีวิตอย่างมาก

4. ใช้เวลาแบบ Unplug

หาเวลาออกห่างทีวี โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ไอแพดและเทคโนโลยีบ้าง สมองของคุณต้องการเวลาในการลบความเครียดต่างๆที่คุณป้อนให้กับมันอยู่ตลอดเวลาโดยที่คุณรู้และไม่รู้ตัว หาอาหารสมองดีๆป้อนให้ตัวเองบ้าง ลองหาหนังสือที่คุณชอบมาอ่าน หนังสือที่เป็นกระดาษจริงๆไม่ได้เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และคุณอาจลองผลิตสิ่งที่คุณชอบแบบเบาๆ เช่น เขียนบทความหรือเขียนหนังสือ ผมไม่ได้ชวนคุณต่อต้านเทคโนโลยีเพราะรู้ดีว่าพวกเราทุกคนชอบมัน แต่เราควรมีเวลา Unplug ให้กับสมองเราได้พักแล้วคุณจะพบว่าตัวเองมีสมองที่ปลอดโปร่งและมีพลังความคิดเพิ่มขึ้นอย่างมาก

5. หาทางใช้เวลากลางแจ้งและออกท่องโลก

ธรรมชาติสร้างสิ่งต่างๆไว้ให้เราบนโลกนี้มากมาย คุณควรหาโอกาสชื่นชมสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้ แสงแดด สายลม ภูเขาและทำเล  การหาประสบการณ์จกโลกกว้างภายนอกช่วยให้คุณได้รู้จักภายในจิตใจของตัวเองได้มากขึ้นเช่นกัน

6. ใช้เวลากับอาหารโปรด

วันหยุดเป็นช่วงเวลาที่คุณไม่ต้องเร่งรีบเพื่อทำตามตารางการทำงานต่างๆ ทำชีวิตของตัวเองให้ช้าลงบ้างเพื่อชื่นชมเวลาที่คุณใช้แต่ละนาทีอย่างมีความสุข ปล่อยสมองให้ว่างแล้วใช้เวลากับอาหารมื้อโปรดให้เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ทำเองหรือที่ร้านอาหาร กินแบบช้าๆ แต่ไม่ได้กินมากจนทำให้อ้วน ให้เวลากับตัวเองกับกลิ่น รสชาติ บรรยากาศและมีความสุขกับอาหารมื้อโปรดนี้
นี่เป็น 6 เคล็ดลับควรทำในวันหยุดที่จะช่วยทำให้คุณมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากคุณลองทำด้วยตัวเองแล้วคุณจะพบว่าทั้งสมองและร่างกายของคุณจะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าและมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหัศจรรย์

ขอบคุณบทความดีๆจาก
http://www.succeedlifestyle.com/6-tips-in-holiday-improve-life-quality/

หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

19 ข้อ เล่นหุ้นไม่มีดอย

19 ข้อ เล่นหุ้นไม่มีดอย

วันนี้อ่านหนังสือ ของ โอเนล อ่านเรื่อง ข้อผิดพลาด โอ้แม่จ้าว กรูโดนอย่างเยอะเลย เค้าว่ากันว่า คนเราจะล้มไม่ใช่เพราะ ไม่เก่งพอหรอกแต่เพราะพลาด มากไปมากกว่าสิ แปล๊บเลย 555 มาดูกันดีกว่าว่ามีไรบ้าง (จริงๆ มันมี 21 ข้อ แต่อีกสองข้อ ไม่เข้าใจดี ไว้เดี๋ยวค่อยมาเขียนต่อ)
1. ไม่ยอมตัดขาดทุนในขณะที่มันยังจิ๊บๆ 
เพราะมัวแต่คิดว่า เดี๋ยวราคาหุ้น มันก็เด้ง แล้วก็ทนเจ็บเรื่อยๆ ท่องไป จิ๊บๆ อิอิ
2. ซื้อตอนคุณนายตลาดกำลัง อาร์ทลง
ตามนั้นเลย เมื่อไหร่ที่ตลาดอารมณ์เสีย ขายถล่มราคาหุ้น เราชอบคิดว่า เฮ้ย รีบรับของถูก ของตกยังเก็บ แต่เก็บหุ้นตก แบบไม่ดูตาม้าตาเรือนี่ จะจ๊ากๆ แทนจิ๊บๆนะคร๊าบ
3. ถัวเฉลี่ยขาลง 
เมื่อเราติดดอย เราก็อยากจะลงดอยซักที ก็ซื้อ ถัว ลดราคาเฉลี่ยเรื่อยๆ จนเงินหมด แต่มันก็ลงต่อ T_T และไม่ยอมขึ้นซักที หุ้น บางตัวกว่าจะขึ้นมาที่เดิมใช้เวลาเป็น สิบปีนะคร๊าบ
4. ราคาไปไกลแล้ว new high ไม่ซื้อ 
อาจขัดต่อความรู้สึก แต่หุ้นส่วนใหญ่ถ้าทำ new high ขณะขาขึ้น มักจะไปได้ต่อ
5.ซื้อหุ้นซี้ซั้ว 
กรูไม่สน หุ้นนี้ชื่อเท่ กรูซื้อ roe เท่าไหร่ไม่รู้ กิจการเป็นอย่างไรไม่รู้ รู้แต่ สัญชาตญาณ บอกข้าให้ซื้อ หุ้นตัวนี้ 55555
6. ซื้ิอหุ้นไม่ดูตาม้าตาเรือ 
ซื้อ ซื้อ ซื้อ ไม่ได้ดูเล้ยว่า พรุ่งนี้จะเป็นยังไง ซุนวูว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง อันนี้รู้แต่ว่ากรูอยากซื้อ บ. นี้ดี ขายขนมจีบด้วย เปิด 24 ชม แต่ลืมดูตลาด ไม่มีการมองตลาดเลยว่า เฮ้ย ช่วงนี้ ต่างชาติ + กองทุน + สถาบัน แย่งกันขายอยู่นี่หว่า
ส่วนมากเมื่อผิดพลาดข้อนี้แล้วมักจะ ต่อด้วย ข้อ 1 หรือ ข้อ 3
7. ไม่เล่นตามแผน 
เตะบอลยังต้องมีแผน แล้วเล่นหุ้นจะไม่มีแผนเลยหรือ อุตส่า สร้างข้อกำหนดมาว่าจะซื้อเมื่อไหร่ จะขายเมื่อไหร่ แต่ พอ หุ้นลง หรือขึ้น ๕๕๕ กรูลืมหมดแล้ว แผนการที่ สร้างมา
8. ตั้งใจมากตอนจะซื้อ แต่ลืมขาย 
ส่วนมาก เวลา พวกเรา จะซื้อ หุ้น เราจะทุ่มเท มาก ศึกษา อดหลับอดนอน เพื่อหา หุ้นเทพ หุ้นดี แล้ว ชอบลืมคิด ว่า เมื่อไหร่จะขาย(วะ) อย่าลืมนะครับ เวลาจะขายก็ต้อง ศึกษา ทำวิจัย ไม่ต่างกับตอนซื้อ
9. ไม่ยอมดู ฮวงจุ้ย
พวก ชาวดอย จะไม่ยอมเข้าใจ concept ที่ว่า ต้อง ซื้อหุ้น ดี มีองค์กร ที่มีกำลังซื้อมากอยากได้ และต้องซื้อถูกที่ถูกเวลา
10. ซื้อปริมาณมากขึ้นเมื่อราคาลง และ ไม่ยอมซื้อ น้อยลงเมื่อราคาเพิ่ม
เฮ้ย หุ้น ลง แล้ว ซื้อเพิ่ม เยอะๆ ตอนนี้ถูกเว้ยเฮ้ย เวลาขึ้นจะ ได้ กำไรเยอะๆ …. เฮ้อ ไอ้ึความคิดแบบนี้หละ ที่ทำให้พวกมรึง เป็นชาวดอย อย่างนี้ แล้วมันจะลง ไปถึงเมื่อไหร่ ก็ไม่รู้ เจ็บตัวหวะ แล้วแทนที่จะซื้อเพิ่มตอนมันราคาขึ้น ค่อยๆ ซื้อเพิ่ม เพราะอย่างที่บอกหละว่า กำไรหนะให้ดูมันนานๆ แต่ขาดทุนหนะรีบๆ เอาออกจาก port ไปเหอะ จะได้ ปลอดภัย
11. ซื้อหุ้นตามเซียน
จากที่รู้จากหลายๆ คน เห็นโบรคเชียร์จัง มีนักวิแคะห์ ออกมาพูด ก็ เชื่อยังกะมันเป็น ศาสดา พวกนี้ ถ้ามันแม่นจริง มันก็รวยกันแล้ว ไม่ต้่องมานั่งวิแคะห์ ให้พวกเอ็งฟังหรอก ข้อมูลหนะเชื่อได้ แต่พวกนี้จะชอบใส่ความเห็น ไอ้ความเห็นนี่หละ จะทำให้ พวกเอ็ง กลายเป็นชาวดอย
12. ซื้อ หุ้น กาก
เคยมั้ย ซื้อหุ้น เทพ ไม่ทันราคาไปไกล แล้ว… หุ้นเทพ ทำกิจการ A เลยหาทั่วตลาด ว่าหุ้นตัวไหนทำกิจการ A บ้าง แ้ล้ว ก็ตามซื้อ …. เฮ้อ ลูกเอ้ย หุ้น กาก มันก็คือหุ้นกากหละ มันอาจจะ ขึ้นตามบ้าง แต่ก็ได้ไม่นานหรอก อย่าไปเสียเวลากับมันเลย
13. อยากรวยเร็ว
อยากรวยเร็วเล่นหวยครับ อย่ามาเล่นหุ้น ไอ้พวก เห็น หุ้น ขึ้นแรงๆ แล้วสอยตามหนักๆ อ่ะ คงเจ็บตัวบ้าง ไม่มาก ก็มากๆ
14. เดี้ยนรักหุ้นนะเค๊อะ
หุ้นไม่ได้มีไว้รัก เว้ย เค้า เอาไว้ทำเงิน หุ้นที่เคยทำเงินให้เมื่อวาน ก็ใช่ว่า มันจะทำเงินให้มันนี้ อย่ายึดติด สิ ลองหาหุ้นใหม่ๆ บ้าง พวกนั้นหละชอบทำเงินนักแล
15. ไม่สามารถ แยกข้อมูลดีกับข้อมูลกาก
ถ้าได้เคยอ่านสามก๊วก ตอน โจโฉ แตกทัพเรือ คงจะเข้าใจเรื่อง นี้ดี ทัพที่ใหญ่มาก แต่กลับเชื่อ ข้อมูลผิดๆ เอาเรือผูกกัน เลยโดน เผาซะวอด นักเล่นหุ้นที่ดี ต้อง เชื่อตัวเอง ฟังข้อมูล แล้วกรองได้ว่า อันไหนดีไม่ดี
16. ไม่ชอบเห็นกำไร แต่รักขาดทุน
หุ้นไหนกำไร ขายออกทุกที ไม่ยอมเลี้ยงกำไรให้โต แล้วไม่ไหร่มันจะรวย แต่ทีขาดทุนนี่ ดอง มันซะ เจริญงอกงาม ออกดอกออกผล จน กลายเป็นดอยตุง ๕๕๕
17. คิดมากเรื่อง ค่าคอม
บางทีก็กลัวเสียค่าคอมจน ไม่กล้าซื้อ/ขาย แมร่ง คิดดู ค่าคอม 50 บาทเอง แต่ถ้าหุ้นรูด เงินหายไปเท่าไหร่ หรือว่า ถ้าหุ้นพุ่ง จะได้เงินเท่าไหร่ เล่นหุ้น กล้าได้กล้าเสีย ขนาดนี้ แล้วจะงก ค่าคอม ทำไม(วะ)
18. ฺ ลงทุนใน DW/Future เพราะคิดว่ามันจะทำให้รวยเร็ว
พวกนี้ถ้าไม่ดูดีๆ นอกจากจะไม่ทำให้รวยเร็วแล้ว มันยังจะพาฉิบหาย ดูอย่าง IVL-T1 ที่เห็นๆ ราคาจาก 14-15 ไปเหลือ ที่ 2 บาท แม่เจ้า (ดีที่กรูไหวตัวทันตอน 13 ดี ที่ไม่พลาดข้อ 1)
19. ไม่พร้อมตัดสินใจเวลาที่ต้องทำ
โบรคบอกให้ซื้อ ซื้อแล้ว แต่หุ้นลง ทำไงดีวะ โทรถามโบรค ดีมั้ย หรือว่า รอบทวิแคะห์ดี ดูราคาอีกที ….. จ๊ากกกกกก ทำไมรูดงี้หละ



ขอบคุณบทความดีๆจาก
ougnt
stock blog

หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

ต้นทุนของเงินทุน


ต้นทุนของเงินทุน


การลงทุนในหุ้นหรือการลงทุนใดๆ ก็ตามจะมีต้นทุน หรือ cost of capital เสมอ เพราะมันคือค่าเสียโอกาสในการ ลงทุนอื่นๆ อย่างเช่นฝากเงินในธนาคาร ดังนั้นคุณไม่ควรลืมคิดต้นทุนนี้เสมอ
ตัวอย่างเช่นหากคุณได้กำไรจากหุ้น 6 บาท จากเงิน 100 บาท ในหนึ่งปี แต่แบงค์ ก็ให้ 6% ต่อปีอยู่แล้วก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้กำไรเลย
คิดตรงข้าม
หากว่า คุณลงทุนหุ้นแต่ไม่ได้กำไรเลย 100 เป็นเวลาหนึ่งปีก็เท่ากับว่า คุณขาดทุน 6% เช่นกัน
สูตรการคิดต้นทุนคือ

X / (1 + rate )™

X คือเงินทุน
rate คืออัตตราดอกเบียที่คุณ หาได้ในปัจจุบันมีความเสี่ยงต่ำ 0.06 คือ 6%
tm คือ จำนวนปี
100/(1.06)² = 89 บาท  ดังนั้นเงิน 100 บาทมีค่า 89 ในอนาคต

Warren


วอเรน บัฟเฟต จะใช้ดอกเบี้ยจากจากพันธบัตร ระยะยาวเท่านั้นในการคำนวณต้นทุนความเสี่ยง ของเงินทุน ไม่รวมความเสี่ยงเฉพาะหุ้น

หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com

การถือยาวอย่างไร โตได้มากกว่า


การถือยาวอย่างไร โตได้มากกว่า

กองทุน Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ในจดหมายประจำปี 2008 ท่านจะเห็นได้ว่า กองทุนนี้มีอัตราการขยายตัวถึง 362,319 % ระหว่างปี 1965-2008 ในขณะที่ Index S&P500 ทำได้เพียง 4,276 % ซึ่งมีความแตกต่างกันเป็นแสนเปอร์เซ็นต์ !!! น่าสนใจใช่ไหมครับ !!ยิ่งไปกว่านั้น Performance ต่อปี ของ Warren Buffett ก็เพียงประมาณ 20% เท่านั้นเอง

     เคล็ดลับของ Warren Buffett ที่แท้จริงแล้วคือ การรักษาต้นทุน ไม่ให้มีการขาดทุน จนเกิดผลกระทบต่อการสะสมกำไรในอนาคต หากสังเกตดูที่ลูกศรในรูปข้างล่างนี้ ท่านจะเห็นได้ว่า เมื่อตลาดเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ตัวของ Warren Buffett จะเสียต้นทุนเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ S&P500 จะเสียมากกว่าเยอะ

     สรุปก็คือ ท่านจะสังเกตได้ว่า กองทุนต่างๆ ที่เสียผลกำไร 30-40% ต่อปี ในบางปีนั้นๆ ในปีถัดไป ถ้าหากทำกำไรได้เพียง 30-40% กล่าวคือยังไม่ได้ทุนคืนทั้งที่เวลาผ่านไป 2 ปีเต็ม แล้วคุณรักษาต้นทุนได้หรือเปล่าครับ


ลองดู ตัวอย่างการเทรด ว่ากำไรจะโตอย่างไรในการเทรดแบบต่างๆ ในส่วนถัดไป

ตัวอย่างการเทรด แบบขาดทุนมากและแบบรักษาต้นทุนไว้

     กำไรที่จะได้ในอนาคตจะไม่โตเร็ว ถ้าหากท่านไม่ได้รักษาต้นทุนเอาไว้ และหากท่านเล่นในแบบสไตล์ VI แต่เลือกหุ้นไม่เก่ง ดังนั้นท่านต้องไม่ลืมว่า ท่านจะถือลักษณะ loss มาก ซึ่งเป็นการที่ไม่ดีแน่นอนครับ

ข้อคิดอีกอย่างคือ การซื้อหุ้นต้องมีจังหวะที่ดี จึงหมดห่วงการถือยาวๆในอนาคต



หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรมกราฟ Investor Plugin แบบ Realtime 
ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com

กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุน


กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุน

     ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบ Internet กำลังเป็นที่ยอมรับของบรรดานักลงทุนมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายแบบออนไลน์เพิ่มสูงมากอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะมีค่าคอมมิสชั่นที่ต่ำกว่าเป็นตัวดึงดูดก็เป็นได้ นอกเหนือจากสามารถจัดการซื้อขายได้ทันทีด้วยตัวเองอย่างสะดวกรวดเร็ว บรรดาผู้ที่เทรดออนไลน์ส่วนใหญ่จะอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพราะนับว่าเป็นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่มีมากมาย และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ง่าย
     วิธีการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ที่มีข้อดีในการดูข้อมูลข่าวสารได้ง่าย และสะดวกรวดเร็ว แต่นักลงทุนยากที่จะแยกแยะว่าข้อมูลที่ได้รับนั้นเป็นจริง เท็จมากน้อยเพียงใด ซึ่งการเรียนรู้ถึงวิธีการจัดการพอร์ตการลงทุนจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง

แนวทางการเลือกหุ้นและหาจังหวะเข้าซื้อ

     จากประสบการณ์ที่ทำงานดูแลลูกค้าออนไลน์ของบริษัท พบว่าลูกค้าจะมีสไตล์การเทรดแบบเก็งกำไรเป็นส่วนมาก กล่าวคือออกเร็วเข้าเร็ว อย่างไรนั้นก็ควรศึกษาข้อมูลของหุ้นก่อนการลงทุนเสมอดังนี้
     เลือกหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ โดยเอาอาจข้อมูลจากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ใน www.settrade.com ซึ่งได้รวบรวมบทวิเคราะห์หลายโบรกเกอร์มาไว้ด้วยกัน ซึ่งจะขอแนะนำว่าไม่ควรอ่านบทวิเคราะห์เพียงโบรกเกอร์เดียว ควรอ่านหลาย ๆ โบรกเกอร์เพื่อนำมาเป็นแนวทาง

  • ดูค่า P/E ดูค่า P/BV (ถ้าต่ำ ๆ ทั้ง 2 ตัว ย่อมดีกว่าสูง ๆ ข้อควรระวังของการเลือกค่า P/E ต่ำ ๆ กล่าวคือ ควรเลือกหุ้นที่เคยมีค่า P/E สูงในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นภาวะขาขึ้น เมื่อเกิดภาวะตลาดอ่อนตัวลงค่า P/E ของหุ้นตัวนั้นก็จะมีค่าต่ำลง ซึ่งสามารถใช้ค่านั้นมาช่วยในการตัดสินใจเลือกหุ้นได้)

  • ดูอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield)

  • ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยว่าควรเป็นเท่าใด


 เมื่อเราเลือกหุ้นที่สนใจ พร้อมมีข้อมูลพื้นฐานแล้ว จากนั้นก็หาจุดเข้าซื้อที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น เมื่อตลาดลง เข้าซื้อหุ้นที่ดี (อาจเลือกหุ้นที่ดีที่สุด ซึ่งอยู่ในกลุ่มนำตลาดในขณะนั้น) มีอนาคต ในราคาถูกเป็นจำนวนมาก และจะขายหุ้นของเขาในราคาแพงยามที่ตลาดเป็นขาขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการของ วอเร็น บัฟเฟตต์ นั่นคือ เขาจะซื้อหุ้นสวนทางกับตลาดเสมอ กล่าวคือเมื่อตลาดลง เขาจะซื้อหุ้นที่ดี มีอนาคตในราคาถูกเป็นจำนวนมาก และจะขายหุ้นของเขาในราคาแพงยามที่ตลาดเป็นขาขึ้น หรือกลยุทธ์การลงทุนของจอห์น เนฟฟ์ อดีตผู้จัดการกองทุนหุ้น Windsor ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในอเมริกา วิธีการลงทุนของเขานั้นเน้นที่การซื้อหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำ มีเงินปันผลและมีอัตราการเติบโตพอประมาณ

ลดความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุน


  • ควรกระจายในหลาย ๆ กลุ่มธุรกิจ และที่สำคัญที่สุดควรกระจายสินทรัพย์ในหลายประเภทด้วย เช่น พันธบัตร ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ไม่ใช่ลงแต่หุ้นทั้งหมด เพื่อไม่ให้สนองตอบความเปลี่ยนแปลงของตัวเลขทางเศรษฐกิจไปในทางเดียวกันหมด

  • กระจายการลงทุนโดยเลือกหุ้นเด่นที่มีพื้นฐานดีแค่ 4-5 กลุ่มอุตสาหกรรม

  • เข้า – ออกระหว่างหุ้นตามสถานการณ์





หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com


การสังเกตุ จำนวนหุ้นที่เป็นขาขึ้นในแต่ละวัน


จำนวนหุ้นที่เป็นขาขึ้นในแต่ละวัน

เราสามารถเอาสถิติของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ เปลี่ยนแปลง,ขึ้น,ลง,ไม่แปลี่ยน มาดูเป็นแผนภูมิได้ ของแต่ละวัน

นักลงทุนที่ละเอียด สามารถplotกราฟ สถิตินี้ได้ ในระยะยาวเพื่อดู แนวโน้ม ของการ ขยายตัวของตลาด โดยให้สังเกตุว่า มาจากหุ้น ในกลุ่มใด จำนวนเท่าไร เป็นต้น 

จำนวน Volume ที่เป็นขาขึ้นหรือลง ของแต่ละวัน



เมื่อเรารู้แล้ว ว่าตัวเลขหุ้นที่ขึ้นเป็นอย่าง เราก็มาดูต่อว่า แล้ว volume ของจำนวนหุ้นเหล่านั้นเป็นอย่างไร อ่านต่อ

การดูเบื้องต้น

จากรูปเราจะเห็นว่า volume ที่ขึ้นนั้นมาจากหุ้นจำนวนที่น้อยกว่า แสดงได้ว่า ตลาดหุ้น ไม่ได้ถูกเฉลี่ย เงินลงทุนกลับกระจุก ตัวในหุ้นที่ถูกสนใจ
หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com

UAC ทำงานอย่างไร



UAC ทำงานอย่างไร

     การควบคุมบัญชีผู้ใช้ (User Account Control หรือ UAC) คือคุณลักษณะใน Windows ที่สามารถช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงที่คอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต UAC ดำเนินการโดยการขออนุญาตจากคุณหรือ รหัสผ่าน‌ ผู้ดูแล ก่อนที่จะดำเนินการที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์ หรือที่จะเปลี่ยนการตั้งค่าที่อาจส่งผลต่อผู้ใช้รายอื่นๆ เมื่อคุณเห็นข้อความ UAC ให้อ่านอย่างรอบคอบ จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อของการดำเนินการหรือโปรแกรมที่กำลังจะเริ่ม เป็นสิ่งที่คุณตั้งใจจะเริ่ม

     โดยการตรวจสอบการดำเนินการเหล่านี้ก่อนที่จะเริ่ม UAC จึงสามารถช่วยป้องกัน ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย (มัลแวร์) และ สปายแวร์ ไม่ให้ติดตั้งหรือทำการเปลี่ยนแปลงกับคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต

     เมื่อการทำงานต้องการการอนุญาตหรือรหัสผ่านของคุณจึงจะ สมบูรณ์ UAC จะแจ้งเตือนคุณด้วยข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

Windows ต้องการการอนุญาตจากคุณเพื่อดำเนินการต่อ


     ฟังก์ชัน Windows หรือโปรแกรมที่อาจส่งผลต่อผู้ใช้รายอื่นๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ต้องการการอนุญาตของคุณเพื่อเริ่มการทำงาน ตรวจสอบชื่อของการดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นฟังก์ชันหรือโปรแกรมที่คุณ ต้องการเรียกใช้

โปรแกรมต้องการการอนุญาตจากคุณเพื่อดำเนินการต่อ

     โปรแกรมที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Windows ต้องการการอนุญาตจากคุณเพื่อเริ่มการทำงาน โปรแกรมมี ลายเซ็นดิจิทัล ที่ถูกต้องซึ่งบ่งชี้ชื่อและผู้เผยแพร่โปรแกรม ช่วยให้แน่ใจว่าเป็นโปรแกรมนั้นจริงๆ ตรวจสอบว่าเป็นโปรแกรมที่คุณต้องการเรียกใช้

โปรแกรมที่ไม่ได้ระบุต้องการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณ


     โปรแกรมที่ไม่ได้ระบุคือโปรแกรมที่ไม่มีลายเซ็นดิจิทัลที่ถูกต้องจากผู้เผยแพร่ เพื่อรับรองว่าเป็นโปรแกรมนั้นจริงๆ การไม่มีลายเซ็นดิจิทัลไม่ได้หมายความว่าเป็นอันตราย เนื่องจากโปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมายรุ่นเก่าหลายโปรแกรมก็ไม่มีลายเซ็นเช่น กัน อย่างไรก็ตาม คุณควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและอนุญาตให้เรียกใช้โปรแกรมนี้ เฉพาะเมื่อคุณได้โปรแกรมมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น ซีดีต้นฉบับหรือเว็บไซต์ของผู้เผยแพร่

โปรแกรมนี้ถูกบล็อก


    นี่เป็นโปรแกรมที่ ผู้ดูแล ของคุณได้บล็อกโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้ทำงานบนคอมพิวเตอร์ของคุณ เมื่อต้องการเรียกใช้โปรแกรมนี้ คุณต้องติดต่อผู้ดูแลของคุณ และขอให้ยกเลิกการบล็อกโปรแกรม
หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com

Free Float มีความสำคัญอย่างไรกับหุ้นที่เราเลือกซื้อ


Free Float

โดยทั่วไป Free Float จะถูกคำนวณเป็น % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ของ บริษัทหนึ่งๆ โดยมันจะแสดงถึงจำนวนหุ้นที่สามารถ มีโอกาส หรือ มีความคล่องตัวสูง ที่จะถูก แลกเปลี่ยน หรือ เปลี่ยนมือ หรือ มีการเทรด ระหว่าง ผู้ซื้อผู้ขายสูง   

การกำหนดค่า Free Float โดย กลต

  • ค่า free float ของหุ้นในแต่ละบริษัทจดทะเบียนเป็นข้อมูลที่แสดงถึงจำนวนหุ้นที่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงเพื่อการซื้อขายได้ปกติ โดยหลักการ หุ้น free float คือหุ้นที่ไม่ได้ถือโดยนักลงทุนกลุ่ม strategic shareholder และไม่ได้เป็นหุ้นที่ซื้อคืน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่ระบุชัดเจนว่าผู้ถือหุ้นคนใดหรือกลุ่มใดเป็น strategic shareholder ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงได้ประมาณการค่า free float เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามข้างล่างนี้ ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีความเห็นว่าตัวเลขยังไม่ถูกต้อง สามารถติดต่อฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อปรับปรุงค่า free float
  • free float หมายถึง หุ้นของบริษัทจดทะเบียนในส่วนที่ไม่ได้ถือโดย strategic shareholder และไม่ได้เป็นหุ้นที่ซื้อคืน โดยที่ strategic shareholder หมายถึง ผู้ลงทุนที่ถือหุ้นเพื่อการมีส่วนร่วมในการบริหารหรือเพื่อเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในที่นี้รวมผู้ถือหุ้นกลุ่มต่อไปนี้
      1. กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร 4 ระดับแรกนับต่อจากผู้จัดการลงมา รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่มีความสัมพันธ์
      2. ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น > 5% โดยนับรวมผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยกเว้นผู้ถือหุ้นกลุ่มดังต่อไปนี้คือ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย กองทุนรวม และกองทุนที่ออมแบบมีภาระผูกพัน
      3. ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุม
    • ค่า free float ประมาณการจากข้อมูลปิดสมุดทะเบียนในการประชุมประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดของแต่ละบริษัทในแต่ละปี และปรับปรุงค่าประมาณการ free float ในช่วงหลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ในกรณีสำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ดังต่อไปนี้
    1. กรณีเพิ่มทุน โดย public offering, exercise warrant, preferred stock/debenture conversion จำนวนหุ้นที่ออกใหม่นับเป็นหุ้น free float
    2. กรณีเพิ่มทุน โดย private placement จำนวนหุ้นที่ออกใหม่นับเป็นหุ้นที่ถือโดย strategic shareholder
    3. การเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหารตามรายงานแบบ 59-2
    4. กรณีผู้ถือหุ้นกลุ่ม strategic shareholder ขายหุ้นออกโดย public offering หุ้นที่ขายออกนับเป็น free float
    5. กรณีหุ้นที่เป็น treasury stock การซื้อกลับคืนทำให้ free float ลดลง และการนำหุ้นออกขายจะทำให้ free float เพิ่มขึ้น
    • แหล่งข้อมูลที่ใช้ประมาณการค่า free float มาจากฐานข้อมูล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ยกเว้นข้อมูลจากรายงาน 59-2 มาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
    เราจะตีความค่าเหล่านี้ได้อย่างไร...

    หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

    Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
    Email :: sales@investorz.com

    Ads Inside Post