วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผู้คิดค้นทฤษฎี Elliott Wave Theory

Ralph Nelson Elliot (1871 – 1948) 

ผู้คิดค้นทฤษฎี Elliott Wave Theory ซึ่งเขาได้มาจากการศึกษา Dow Jones Averages ทฤษฎีถูกตีพิมพ์ในชื่อ The Wave Principle โดยเพื่อนของเขาชื่อ Charles Collins ผู้ที่คิดค้น Dow Theory
จากการศึกษา Dow Jones Index เขาพบว่า ตลาดจะมีการเจริญเติบโตในลักษณะ ลูกคลื่น โดยที่มันจะมีช่วงที่ ขยายตัว และ ถดถอย (Progress and Regress)
การจะเอา Elliott Wave มาใช้ช่วยประเมินความเสี่ยงในการเล่นหุ้นนั้น นักลงทุนเองควรจะทำความเข้าใจในเหตุผลเชิงจิตวิทยาของทฤษฎีเสียก่อน เพื่อที่จะใช้ในการตีความหมายของสถานะการณ์ของราคาในปัจจุบัน นักลงทุนที่ไม่ได้ใช้เหตุผลในเชิงจิตวิทยามาประกอบการวิเคราะห์มักจะมองข้ามวัตถุประสงค์หลักของทฤษฎี อาทิ
  • ราคาของตลาดปัจจุบันอยู่ในช่วง ต้น กลาง หรือ ปลาย ของ Economic Cycle

  • ราคาของตลาดปัจจุบันถูกครอบงำด้วย นักลงทุนที่เล่นระยะ สั้น กลาง หรือ ยาว

  • ราคาของตลาดปัจจุบันถูกครอบงำด้วย ด้วยนักลงทุน ที่น่าจะมีความคิด ความคาดหวัง ความวิตกกังวล อย่างไร

  • ราคาของตลาดปัจจุบันจะมีถูกประเมิน ว่าความเสี่ยงในช่วงสั้นและยาวเป็นอย่างไร ความคาดหวังในราคาอนาคต ของเราอย่างไร

  • ราคาของตลาดปัจจุบัน หากมีการเปลี่ยนแปลงไป ตามความคาดหมาย หรือ ไม่เป็นตามคาดหมายนั้น เราจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่อไปอย่างไร

ดังนี้จะทำให้เรารู้ว่า เราควรลงทุนแบบใหน (สั้น ยาว หนัก เบา) ที่จะทำให้เราอยู่ในฐานะที่จะได้กำไรจากการลงทุนและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
นายเนลสัน


ลูกคลื่นไม่จำเป็นต้องประกอบด้วย WAVE 5-3 เสมอไป

อาจจะเป็น 1-1, 3-3, 3-5, 5-3, 5-5 หรือ อื่นๆก็ได้




Wave Scenarios 

Wave ที่สั้นสุดคือ 1-1 

คลื่นขาขึ้น 1ลูก ขาลง 1ลูก มีขนาดเท่ากัน จะยังไม่เป็นทิศทางอะไร แต่หากขาขึ้นและลงไม่เท่ากันย่อม มีจิตวิทยาที่ต่างกันออกไป

Elliott Wave ที่สั้นสุดคือ 3-1, 3-3

Elliott Wave ขาขึ้น/ลง ช่วงหนึ่งๆจะมีคลื่น อย่างคลื่นอย่างน้อย 3 ลูก Wave 0-1-2-3 นักลงทุนอาจจะมอง เป็น Wave 0-A-B-C ก็ได้โดยมาก Wave 0-A-B-C นั้น จะขึ้นลงเร็วและจบรอบเร็ว ต่างกับ Classic Wave 0-5 ซึ่งจบช้ากว่า

โดยมาก ขนาดของ Wave 0-1 จะมีความยาวประมาณ 1-2 เท่าของ Wave 2-3 โดยมักจะมีความเร็วเท่ากับ Wave 0-1 หากความเร็วในช่วง Wave 2-3 เปลี่ยนไป มันอาจจะมีกำลังเป็น Classic Wave แทนก็ได้

อย่างไรก็ดี Wave 3-3 นั้นจะไม่มีแรงดันให้เป็นขาขึ้นในรอบถัดไป ถ้ามันขึ้นแล้วลงกลับมาที่เดิม ให้มองเป็น sideway ไปก่อน

Classic Wave 5-3, 3-5

ขาขึ้นที่มีแรงสมดุลจะมีลูกคลื่น 5 ลูก และหากขาลงเป็น 3 ลูกแล้วยังรักษาระดับไว้ได้ จะมีโอกาสเป็นเทรนด์ขาขึ้น ซึ่งคุณอาจจะกำลังดูลูกคลื่นย่อยของคลื่นที่ใหญ่กว่าอยู่ 

Extended Wave

ที่จริง wave จะเป็นลักษณะอื่นๆอีกได้เช่น Wave 7, Wave 9 ก็ได้ และมีได้มากกว่า 5 ลูกในหนึ่งขา ก็ได้ ทั้งนี้ท่านจะเข้าใจมากขึ้นตามประสบการณ์ว่ารูปแบบที่ต่างออกไปจะมีแรงแตกต่างกันไปอย่างไรเพื่อใช้ประโยชน์ในการลงทุน ความเสี่ยงและความคาดหวัง

หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม Investor ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย
หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ads Inside Post