วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุน


กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุน

     ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบ Internet กำลังเป็นที่ยอมรับของบรรดานักลงทุนมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายแบบออนไลน์เพิ่มสูงมากอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะมีค่าคอมมิสชั่นที่ต่ำกว่าเป็นตัวดึงดูดก็เป็นได้ นอกเหนือจากสามารถจัดการซื้อขายได้ทันทีด้วยตัวเองอย่างสะดวกรวดเร็ว บรรดาผู้ที่เทรดออนไลน์ส่วนใหญ่จะอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพราะนับว่าเป็นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่มีมากมาย และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ง่าย
     วิธีการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ที่มีข้อดีในการดูข้อมูลข่าวสารได้ง่าย และสะดวกรวดเร็ว แต่นักลงทุนยากที่จะแยกแยะว่าข้อมูลที่ได้รับนั้นเป็นจริง เท็จมากน้อยเพียงใด ซึ่งการเรียนรู้ถึงวิธีการจัดการพอร์ตการลงทุนจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง

แนวทางการเลือกหุ้นและหาจังหวะเข้าซื้อ

     จากประสบการณ์ที่ทำงานดูแลลูกค้าออนไลน์ของบริษัท พบว่าลูกค้าจะมีสไตล์การเทรดแบบเก็งกำไรเป็นส่วนมาก กล่าวคือออกเร็วเข้าเร็ว อย่างไรนั้นก็ควรศึกษาข้อมูลของหุ้นก่อนการลงทุนเสมอดังนี้
     เลือกหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ โดยเอาอาจข้อมูลจากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ใน www.settrade.com ซึ่งได้รวบรวมบทวิเคราะห์หลายโบรกเกอร์มาไว้ด้วยกัน ซึ่งจะขอแนะนำว่าไม่ควรอ่านบทวิเคราะห์เพียงโบรกเกอร์เดียว ควรอ่านหลาย ๆ โบรกเกอร์เพื่อนำมาเป็นแนวทาง

  • ดูค่า P/E ดูค่า P/BV (ถ้าต่ำ ๆ ทั้ง 2 ตัว ย่อมดีกว่าสูง ๆ ข้อควรระวังของการเลือกค่า P/E ต่ำ ๆ กล่าวคือ ควรเลือกหุ้นที่เคยมีค่า P/E สูงในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นภาวะขาขึ้น เมื่อเกิดภาวะตลาดอ่อนตัวลงค่า P/E ของหุ้นตัวนั้นก็จะมีค่าต่ำลง ซึ่งสามารถใช้ค่านั้นมาช่วยในการตัดสินใจเลือกหุ้นได้)

  • ดูอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield)

  • ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยว่าควรเป็นเท่าใด


 เมื่อเราเลือกหุ้นที่สนใจ พร้อมมีข้อมูลพื้นฐานแล้ว จากนั้นก็หาจุดเข้าซื้อที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น เมื่อตลาดลง เข้าซื้อหุ้นที่ดี (อาจเลือกหุ้นที่ดีที่สุด ซึ่งอยู่ในกลุ่มนำตลาดในขณะนั้น) มีอนาคต ในราคาถูกเป็นจำนวนมาก และจะขายหุ้นของเขาในราคาแพงยามที่ตลาดเป็นขาขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการของ วอเร็น บัฟเฟตต์ นั่นคือ เขาจะซื้อหุ้นสวนทางกับตลาดเสมอ กล่าวคือเมื่อตลาดลง เขาจะซื้อหุ้นที่ดี มีอนาคตในราคาถูกเป็นจำนวนมาก และจะขายหุ้นของเขาในราคาแพงยามที่ตลาดเป็นขาขึ้น หรือกลยุทธ์การลงทุนของจอห์น เนฟฟ์ อดีตผู้จัดการกองทุนหุ้น Windsor ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในอเมริกา วิธีการลงทุนของเขานั้นเน้นที่การซื้อหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำ มีเงินปันผลและมีอัตราการเติบโตพอประมาณ

ลดความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุน


  • ควรกระจายในหลาย ๆ กลุ่มธุรกิจ และที่สำคัญที่สุดควรกระจายสินทรัพย์ในหลายประเภทด้วย เช่น พันธบัตร ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ไม่ใช่ลงแต่หุ้นทั้งหมด เพื่อไม่ให้สนองตอบความเปลี่ยนแปลงของตัวเลขทางเศรษฐกิจไปในทางเดียวกันหมด

  • กระจายการลงทุนโดยเลือกหุ้นเด่นที่มีพื้นฐานดีแค่ 4-5 กลุ่มอุตสาหกรรม

  • เข้า – ออกระหว่างหุ้นตามสถานการณ์





หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ads Inside Post