วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

The TAO of WARREN BUFFETT วิถีแห่ง เต๋า ของ วอเร็น บัฟเฟตต์



The TAO of WARREN BUFFETT

วิถีแห่ง เต๋า ของ วอเร็น บัฟเฟตต์




ผู้เขียน: Marry Bufett & Daivid Clark
ผู้แปล ผู้เรียบเรียง: เอกสิทธิ์ หัสสรังสี
ปี: 2009
สำนักพิมพ์: สำนักพิมพ์ ฟิเดลลิตี้ 


หนังสือเล่มนี้ดีมากๆ จนขอยกให้คะแนนเต็มในทุกๆ ด้าน ถึงแม้ชื่อเรื่องนั้นกล่าวถึงลัทธิเต๋า แต่อย่างไรก็ดี ก็ไม่มีเนื้อหาของลัทธิแต่ประการใด ผู้เขียนคงเพียงจะต้องการเปรียบเปรยให้ผู้อ่านคิดต่อเอาเอง หนังสือจะพูดถึงข้อคิด 125 ข้อที่ David Clark จดเอาไว้ในสมุดโน๊ตของเค้าระหว่างที่มีโอกาสได้ไกล้ชิดกับ วอเร็น ข้อคิดเหล่านี้เป็นหัวใจ และ เป็นหลักการต่างๆ ที่วอเร็นใช้ในการลงทุน และทำให้ประสบความสำเร็จ
     จุดแข็งของเล่มนี้อยู่ที่การอธิบาย หลักการที่วอเร็นใช้ ที่แตกต่างออกไปจาก หลักการของอาจารย์ของตัวเองคือ  Benjamin Graham - ผู้เขียนหลักในหนังสือที่ชื่อ The Intelligent Investor โดยวอเร็นกล่าวว่า หลักการเดิมของ Benjamin นั้นจะไม่ให้ผลตอบแทนแบบที่เขาทำได้ในปัจจุบัน หนังสือการลงทุน Warren นั้นมีมากแต่จะมีเพียงไม่กี่เล่มที่ สามารถแยกแยะ และเน้นตรงจุดที่เป็นวิธีการสำคัญของวอเร็น จึงขอชมเชยในเรื่องนี้
     จากหนังสือ ท่านจะได้ทำความเข้าใจถึงความสำคัญที่วอเร็นให้เกี่ยวกับราคาของหุ้นก่อนที่เค้าจะซื้อ จึงขอยกให้คะแนนในหมวด Technical แบบเต็มร้อย ตัวอย่างเช่น วอเร็นจะซื้อหุ้น นั้นก็ต่อเมื่อ ความเสี่ยงน้อยมากๆ หรือ ราคาหุ้นนั้นๆ ถูกมากๆ ดังนั้นเค้าจึงมีความมั่นใจเกินร้อย สามารถลงทุนด้วยเงินจำนวนมากๆ ได้ และจะไม่ต้องดูราคาหุ้นนั้นๆ อีกเลย หลังจากซื้อไปแล้ว หลักการที่ว่านี้ ชี้ให้เห็นถึงการลงทุนที่หลายคนกลัว แต่เขาไม่กลัว
     นอกจากนี้ ท่านจะได้รับทราบวิธีการลงทุนโดย fundamental อย่างไรก็ตาม ในหนังสือจะไม่มีการอธิบายถึงการดูงบการเงิน หรือการดูตัวเลขต่างๆ แต่ท่านจะได้ในเรื่องของการเลือกหุ้นตัวธุรกิจ เลือกบริษัทที่น่าสนใจ และเลือกปัญหาที่บริษัทเผชิญอยู่ จึงขอให้คะแนนเต็มในส่วนนี้เช่นกัน
     มีข้อคิดหลายๆ อย่างให้ไว้ ไม่เพียงใช้ในการลงทุนแต่เป็นข้อคิดการใช้ชีวิต การเลือกทางที่จะเดิน เหมาะกับหนุ่มสาวที่กำลังเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว
     ขอสรุปสั้นๆว่า คุ้มค่าในการอ่าน และเหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหรือไม่ก็ตาม

วอเร็นใช้หลักการ มวลชน ที่สำคัญในการซื้อหุ้น คือ 


  • บริษัทนั้นมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนไม่สามารถที่จะซื้อในราคาถูกมากๆ ได้ (e.g. Coca Cola ที่ PE 20 เท่า)
  • ไม่ไล่ตามราคาหุ้นที่สูงเกินไปแล้ว (e.g. Walmart)
  • บริษัทนั้นๆ ไม่มีคนสนใจและบริษัทประสบปัญหาอย่างหนัก ส่งผลถึงราคาที่ถูกมาก (e.g. Washington Post, Geico)
  • การลงทุนหลักๆ และจำนวนมากๆ นั้น เกิดขึ้นในช่วง ตลาดหมีเท่านั้น คือไม่กลัวตลาด หรือ
     การจัดพอร์ตจะเป็นแบบ Focus โดยจะลงเพียงหุ้นประมาณ 10 ตัว

หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย

Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Ads Inside Post