คอลัมน์ ทิศทางเศรษฐกิจ โดย อ.พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ pichiena@gmail.com
หลายท่านตั้งคำถามนี้กับตัวเอง และถามผู้รู้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผมมีคำแนะนำที่จะตอบคำถามนี้
1.ซื้อบ้าน, ที่ดิน, คอนโดฯ ราคาถูก ที่มีผู้มาเสนอขาย ควรอยู่ในย่านที่เป็นใจกลางธุรกิจ CBD (Central Business District) จะดีที่สุด ย่านที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือรถไฟฟ้าลอยฟ้า BTS จะดีมาก ถ้าเขาขายราคาถูกสุด ๆ ควรจะเป็นมือ 2 จะดีกว่าเพราะราคา Discount (ส่วนลด) ลงมาเยอะ ตอนนี้อยู่ในสภาวะ Over Supply มีคนอยากขายเยอะ
2.ซื้อหุ้นกู้ (Corporate Bond) ชั้นดี BBB+ ขึ้นไปที่ให้ผลตอบแทนดี มือ 1 หรือ มือ 2 ก็ได้ ติดต่อแผนกซื้อขายพันธบัตรของแบงก์มีคนฝากขายอยู่เยอะ ช่วงนี้ดอกเบี้ยฝากลดลงมามาก เหลือเฉลี่ย 1 ปีอยู่แค่ 1.5-2.0% ราคาพันธบัตรจึงสูงขึ้น แต่ดอกเบี้ยจะลดลง การซื้อหุ้นกู้บริษัทใด ต้องดูเจ้าของและความมั่นคงของบริษัทนี้นำเป็นอันดับแรก ถ้าดูแล้ว เจ้าของไม่ซื่อสัตย์ หรือบริษัทไม่ค่อยมั่นคง หนี้สินเยอะ อย่าซื้อเด็ดขาด ไม่ว่าจะเสนอให้ดอกเบี้ยสูงเพียงใดก็ตาม
3.ซื้อหุ้นบริษัทดี ๆ ที่ราคาลดลงมามาก เช่น กลุ่มแบงก์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มสื่อสาร กลุ่มรับเหมา กลุ่มอาหาร กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม กลุ่มอสังหาฯ กลุ่มค้าปลีก เก็บยาว ๆ หน่อย ยิ่งบริษัทที่จ่าย เงินปันผลดี ซื้อกินเงินปันผลอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว ควรได้สัก 3-4.5% ขึ้นไป
4.ซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ, เงินยูโร และเงินหยวน เงินเยน เก็บไว้บ้าง ดูจากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่เจอปัญหาภัยแล้งหนัก, ส่งออกลด, บริโภค-ลงทุน ชะลอตัว ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงได้อีก เงินบาทล่าสุด อยู่ที่ 35.50 หรือ 60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ยูโร 39.00/15 ปอนด์ 54.70/85 หยวน 5.57/59 เงินตราต่างประเทศชาติใหญ่ (Hard Currency) มีโอกาสสูงขึ้น 5-10% เทียบกับบาทในปี 2559
5.ซื้อทองคำเมื่อราคาอ่อนลงกว่านี้ ทองแท่งล่าสุดอยู่ที่ 1,120 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 18,900/19,000 บาท ควรรอให้ลดลงมาถึงสัก 18,500 บาท หรือต่ำกว่าจึงค่อยซื้อ เพราะ FED กำลังจะขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ จึงกดดันให้มีแรงเทขายทองออกมาตลอด โดยเฉพาะกองทุน Hedge Fund ของอเมริกาและยุโรปยังคงจ้องขายมองตลอด เพราะมองว่าทองอาจลดลงมาถึง 1,050-1,000 ดอลลาร์สหรัฐไม่ยาก
6.ซื้อกองทุนน้ำมัน (Oil Fund) ถ้าน้ำมัน WTI ลดลงต่ำ ๆ ราว 42-40 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วรอขายเมื่อขึ้นมาถึง 48-50 ดอลลาร์สหรัฐ เล่นอย่างนี้หลาย ๆ รอบก็ได้กำไรไม่น้อย น้ำมันแกว่งตัวมาก ตามข่าวและสถานการณ์ในซีเรีย อิรัก เยเมน ทะเลจีนใต้ จำไว้ให้ดีถ้าลงมาใกล้ 40 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ซื้อ ขึ้นไปใกล้ 50 ดอลลาร์สหรัฐให้ขาย
7.ซื้อทรัพย์สิน และสินค้าที่มีคนมาขายในราคาถูก ๆ เพราะปี 2559 แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ บางท่านอาจคิดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยได้ แต่ดูรูปการแล้วทั้งปัญหาภัยแล้ง ส่งออกลด สหรัฐ-อียู ยังกดดันไทยหนัก ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวและยากจะฟื้นเร็ว เราต้องเผื่อสภาพคล่องไว้ให้มาก จะมีคนขาดสภาพคล่องเยอะ จึงจะมีคนนำทรัพย์สินและสินค้ามาขายราคาถูก ๆ เราก็เลือกซื้อตามความเหมาะสม
8.เราก็ควรจะขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Productive Assets) ออกไป เก็บแต่ทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ไว้ (Productive Assets) จึงจะทำให้เราอยู่ในสถานะที่ดี ที่ได้เปรียบและพร้อมรับกับวิกฤตต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2559
ขอให้ทุกท่านโชคดี บริหารเงินลงทุนของท่านอย่างดียิ่ง อย่าเสี่ยงเกินไป อย่าเสี่ยงในทางที่ไม่ควรเสี่ยง ถ้าจะเสี่ยงต้องคำนวณอย่างดีว่า คุ้มค่าจริง ๆ โลกเศรษฐกิจการเงินปี 2559 ยิ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยงทั้งด้านการเงิน ภูมิรัฐศาสตร์โลก และการเมืองในประเทศไทยด้วย
ขอให้ทุกท่าน สำเร็จสมหวังในการลงทุนครับ
จาก http://money.sanook.com/
-------------------------------------------------------------------------------------------
หากสนใจทดลองใช้งานโปรแกรม investorPlugin ได้ฟรี 14 วัน คลิ๊กเลย
Tel :: 02 166 3159-61 # 103-106
Email :: sales@investorz.com
Facebook :; www.facebook.com/InvestorZcom
Twitter :: https://twitter.com/investorZcom
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น